เทคนิค ในการปลูกกล้วยหอมให้มีผิวสวย,ลูกใหญ่,รสชาติหวานหอม,ไร้สารพิษ,ประหยัดต้นทุนในการปลูก

51

วันนี้บ้านน้อยมีเทคนิคของเรื่องกล้วยๆมาฝากกันค่ะ เป็นเทคนิคบ้านๆไม่ยุ่งยากไม่สิ้นเปลืองงบประมาณแต่ผลที่ได้คุ้มค่าและมีคุณภาพ เป็นการปลูกกล้วยหอมด้วยวิธีการง่ายๆและเทคนิคนี้เป็นการปลูกกล้วยหอมที่ได้ผลผลิตที่ดีเยี่ยม ปลูกแล้วได้กล้วยหอมลูกใหญ,ผิวสวยและให้รสชาติหอมหวานที่สำคัญปลอดสารพิษอีกด้วยค่ะ

กล้วยหอมมีอยู่หลากหลายสายพันธ์ุน่ะค่ะ เช่นกล้วยหอมจันทร์,กล้วยหอมทอง,กล้วยหอมเขียวหรือกล้วยหอมคาเวนดิชซึ่งเป็นกล้วยหอมพันธ์ุที่นิยมปลูกกันโดยทั่วไป กล้วยหอมเป็นผลไม้ที่อุดมไปด้วยคุณค่าของสารอาหารครบถ้วนตามหลักโภชนาการ เช่นมีวิตามิน,ใยอาหารที่ช่วยในการขับถ่าย จึงนิยมนำมาบดเป็นอาหารให้เด็กตัวน้อยที่เริ่มหย่านมแม่ค่ะได้สารอาหารครบถ้วนและเด็กก็อิ่มท้องไม่ร้องงอแงอีกด้วย และตามร้านเบเกอรี่ ก็นิยมนำกล้วยหอมไปประกอบเป็นขนมประเภทต่างๆเพราะเค้ามีทั้งความหอมและหวานเป็นคุณสมบัติเด่นของกล้วยหอมอยู่แล้วไม่ว่าจะเป็นเค้กกล้วยหอม,แยมกล้วยหอม,พายหรือทาร์ตกล้วยหอม,กล้วยหอมทอด,ขนมปังกล้วยหอม,คุ๊กกี้กล้วยหอม สารพัดเมนูที่ทำจากกล้วยหอมล้วนแล้วแต่เป็นที่ชื่นชอบและเป็นที่นิยมรับประทานกันค่ะ

เพราะฉนั้นแล้วการปลูกกล้วยหอมจึงเป็นอะไรที่ไม่มีตกเทรนปลูกได้ตลอดไม่มีว่าปลูกแล้วขายไม่ได้ขายไม่ออกไม่มีแน่นอนค่ะเพราะความต้องการของตลาดมีตลอดต่อเนื่องแรงดีไม่ตก และเทคนิคการปลูกกล้วยหอมให้ลูกโต,ผิวสวย,เนื้อหอมและหวานนั้นมีหลายเทคนิคที่เกษตรกรหลายๆท่านได้ใช้ประสบการณ์ในการปลูกคิดค้นกันแบบเกษตรแนวใหม่หรือเกษตรทฤษฏีใหม่หรือว่าเป็นการปลูกแบบพอเพียงตามรอยพ่อหลวงของปวงชนชาวไทย ซึ่งผลผลิตก็แล้วแต่แนวทางการปฏิบัติของแต่ละท่านที่ได้พากันคิดค้นและลงมือทำและการที่ทำเกษตรถ้าหากว่ามีการลงทุนในต้นทุนที่สูงแล้ว ก็เสี่ยงต่อการเกิดรายได้ที่น้อยหรือลดลง 

หากแต่ว่าถ้าการมีเทคนิคดีๆแบบง่ายๆแบบพอเพียงเป็นการปรับเปลี่ยนแนวทาง ไม่ต้องซื้อปุ๋ยเคมีประหยัดต้นทุนในการปลูก ผลลัพธ์ที่ได้ออกมาดีทั้งในด้านผลผลิตและก็ในด้านสุขภาพของผู้บริโภคแล้วก็จะเป็นการดียิ่งขี้นไปอีกใช่ไม๊ค่ะ บ้านน้อยก็เลยมีเทคนิคแบบบ้านๆไม่ต้องใช้ปุ๋ยเคมี,ปลอดสารพิษในการปลูกกล้วยหอมมาฝากกันค่ะ มาดูกันน่ะค่ะว่าเทคนิคบ้านๆแบบนี้เกษตรหรือท่านไหนที่เคยทำกันบ้างแล้วและสำหรับท่านที่ยังไม่ลองปลูกด้วยเทคนิคง่ายๆนี้ก็ลองปรับเปลี่ยนดูก็ไม่เสียหลายค่ะ

เทคนิคและขั้นตอนการปลูกกล้วยหอม ให้มีผิวสวยลูกใหญ่รสหอมหวานไร้สารเคมีมีวิธีการง่ายๆดังนี้ค่ะ

เทคนิคการปลูกกล้วยหอม

  • ขุดหลุมปลูกกล้วยโดยเว้นระยะห่าง ประมาณ 1×1 เมตร
  • เอาใบกล้วยแห้งมารองก้นหลุม แล้วนำหน่อกล้วยหอมมาวางทับบนใบกล้วยแห้ง โดยตั้งโหนกของหน่อกล้วยให้เป็นทิศทางเดียวกันเพราะในปีแรก การออกลูกของต้นกล้วยจะออกเป็นแถวเป็นแนวเดียวกัน

เทคนิคการปลูกกล้วยหอมเทคนิคการปลูกกล้วยหอม

  • แล้วก็ขุดเอาดินตรงหน้าดินใหม่ที่ขุดขึ้นมานั่นแหละค่ะกลบทับหน่อกล้วย ใช้เท้าย่ำตรงที่ดินกลบพอให้หน่อกล้วยทรงตัวได้

เทคนิคการปลูกกล้วยหอม

  • แล้วใช้เศษใบกล้วยแห้งหรือใบกล้วยต้นกล้วยที่ตัดทิ้งมาวางทับอีกที ทุกอย่างที่ตัดแต่งจากต้นกล้วยหอมเดิมล้วนแล้วแต่เป็นปุ๋ยให้ต้นกล้วยที่ปลูกใหม่ได้หมดเลย และง่ายต่อการให้น้ำและยังช่วยให้ความชุ่มชื้นแก่หน้าดินซึ่งทำให้หน่อกล้วยที่ปลูกใหม่ไม่ต้องรดน้ำบ่อยๆ

เทคนิคการปลูกกล้วยหอม

  • เมื่อปลูกเสร็จแล้วงดการให้น้ำต้นกล้วยเป็นเวลา 7 วัน หากรดน้ำเลยจะทำให้หน่อกล้วยที่นำมาปลูกเน่าเสียหายได้ แล้วหลังจาก7วันไปแล้วให้ทำการรดน้ำประมาณเดือนหนึ่งให้ได้ประมาณ 4 ครั้ง 

เทคนิคการปลูกกล้วยหอม

การดูแลรักษาก็คือ

  • ตัดใบแก่ทิ้งออกบ่อยๆเหลือไว้แค่ใบเพียงเลี้ยงต้นเท่านั้น เพื่อป้องกันแมลงและเพลี้ยกัดกินใบ
  • เมื่อกล้วยให้ผลผลิตสักระยะให้ใช้กระสอบปุ๋ยห่อหุ้มเครือกล้วยไว้เพื่อป้องกันแมลงวันและศัตรูพืชชนิดต่างๆและจะทำให้กล้วยลูกโตผิวสวย สมบูรณ์โดยปราศจากสารพิษค่ะ

เทคนิคการปลูกกล้วยหอม

การให้ผลผลิตในการปลูกกล้วยหอมมีระยะเวลาอยู่ที่ประมาณ6เดือนก็จะเริ่มให้ผลผลิตแล้วล่ะค่ะ การจำหน่ายกล้วยหอมปัจจุบันราคาอยุ่ที่ประมาณหวีล่ะ50-100 บาทหรืออาจมากกว่านั้นในบางตลาดกันเลยทีเดียวค่ะ เทคนิคหรือแนวทางการปลูกกล้วยหอมแบบนี้เป็นการลดต้นทุนในการซื้อปุ๋ยเคมีและยาฆ่าแมลงต่างๆและการที่นำใบกล้วยที่ตัดแต่งต้นกล้วยอีกทั้งใบกล้วยที่แห้งกรอบมาปกคลุมตรงโคนต้นกล้วยนั้นก็เท่ากับการให้ปุ๋ยแก่ต้นกล้วยแล้ว แถมใบกล้วยแห้งที่รองก้นหลุมก่อนการปลูกเมื่อกล้วยสามารถรดน้ำได้แล้วนั้นก็จะเกิดการย่อยสลายกลายเป็นปุ๋ยให้แก่ต้นกล้วยได้เป็นอย่างดี เทคนิคดีๆนี้เป็นการทำการเกษตรแบบพอเพียงไม่ต้องใช้ต้นทุนมากและแนวทางปฏิบัติการเป็นแนวทางปฏิบัติตามรอยพระราชดำริของรัชกาลที่9นั่นเองทุกสิ่งทุกอย่างของการทำเกษตรจะเป็นการเกื้อกูลซึ่งกันและกันซึ่งแล้วแต่ว่าเราจะใช้สิ่งใดมาทำให้เกิดประโยชน์ในการทำไร่ทำสวนของเรานั่นเองค่ะ