อาหารจานเด็ดของเมนูอาหารภาคใต้สำหรับวันนี้ บ้านน้อยขอเสนอเมนูผัดผักที่ได้ขึ้นชื่อว่าเป็น”ราชินีแห่งผักพื้นบ้านภาคใต้”เลยทีเดียวค่ะ เป็นอาหารจานเด็ดที่หน้าตาและวิธีทำที่เหมือนอาหารธรรมดาๆทั่วไป แต่รสชาติของผักที่ได้ถูกเรียกให้เป็นราชินีแห่งผักพื้นบ้านของภาคใต้แล้วรสชาติย่อมไม่ธรรมดาแน่นอนค่ะ เมนูที่จะนำเสนอในวันนี้ก็คือ”ผักเหมียง ผัดไข่”นั่นเองค่ะ
ผักเหมียงนั้นโดยธรรมชาติเป็นผักพันธุ์ไม้ป่า เจริญเติบโตได้ดีภายใต้ร่มเงาของต้นไม้ ผักเหมียงโดยปกติแล้วจะเกิดขึ้นเองตามธรรมชาติพบมากในภาคใต้ และทางภาคใต้ก็มีการปลูกผักเหมียงด้วยเช่นกันค่ะ ผักเหมียงมีรสชาติหวานมันทางภาคใต้นิยมนำมาทานทั้งสดและนำไปปรุงเป็นอาหารประเภทต่างๆได้หลายเมนู และยังนิยมมาทานเป็นผักเคียงกับขนมจีนน้ำยาปักษ์ใต้เข้ากันอย่างแรงเลยทีเดียวค่ะ
เมนูผักที่ได้ขึ้นชื่อว่าเป็นราชินีแห่งผักพื้นบ้านภาคใต้ในวันนี้ทานแล้วอร่อยดีและมีประโยชน์อีกด้วย ผักเหมียงผัดไข่เป็นอาหารประจำครัวของชาวใต้หากใครได้ทานแล้วล่ะก็ทั้งรักทั้งหลงแม่ครัวเลยทีเดียว เรียกได้ว่าแม่บ้านทำแล้วพ่อบ้านลืมไม่ลงแน่นอนค่ะ มาดูวิธีทำผักเหมียงผัดไข่กันเลย
เครื่องปรุงเมนู”ผักเหมียง ผัดไข่”มีดังนี้ค่ะ
- ผักเหมียง 1 กำ(กำนี้ซื้อมา 10 บาทค่ะยอดอ่อนไม่แก่มากกำลังทานเลยล่ะค่ะ)
- กระเทียมจีน 7 กลีบ สับหยาบๆ
- ไข่ไก่ 2 ฟอง
- น้ำมันพืช 1 ช้อนโต๊ะ
- น้ำตาลทราย 1 ช้อนชา
- น้ำมันหอย 1 ช้อนโต๊ะ
- ซีอิ้วขาว 1 ช้อนโต๊ะ
เคล็ดลับและขั้นตอนวิธีทำ
- ตั้งกะทะให้ร้อน ใส่น้ำมันพืชลงไปแล้วใส่กระเทียมลงไปผัดให้หอม
- ผัดกะเทียมพอหอมแล้วให้ตอกไข่ลงไป
- คั่วไข่ให้พอสุกไม่ถึงกับแห้งมาก
- ล้างผักเหมียงให้สะอาดเด็ดเอายอดอ่อนและใบอ่อน ใส่ลงไปในกะทะแล้วปรุงรสด้วยซีอิ้วขาว,น้ำตาล,ซอสหอยนางรมและเพิ่มรสชาติด้วยผงปรุงรสนิดหน่อย
- ผัดให้เข้ากันและให้ผักเหมียงสุกแล้วชิมรสตามใจชอบ เป็นอันเสร็จเรียบร้อย ตักเสริฟพร้อมข้าวสวยร้อนๆได้เลยค่ะ
เมนูอาหารใต้ในวันนี้ไม่ใช่แค่อร่อยและอิ่มท้องอย่างเดียวนะคะ ผักเหมียงยังมีประโยชน์ต่อร่างกายอีกด้วยเพราะมีสรรพคุณทางยาคือเมื่อนำมาทานแล้วจะช่วยบำรุงเส้นเอ็น,กระดูกและมีประโยชน์ต่อสายตาอีกด้วยค่ะ ไม่แปลกใจเลยที่ผักเหมียงได้ชื่อว่า”ราชินีแห่งผักพื้นบ้านภาคใต้”เพราะทั้งหวานและมันแล้วยังมีประโยชน์ “ผักเหมียง ผัดไข่จาน”นี้ต้องยกนิ้วให้เลยค่ะ เป็นเมนูพื้นๆง่ายๆแต่มีความพิเศษในตัว เด็กๆก็ทานได้ผู้ใหญ่ก็ทานดี ของดีเมืองใต้จานนี้ใครได้ทานแล้วล่ะก็ลืมไม่ลงแน่นอนค่ะ
